วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การบ้านประจำสัปดาห์ที่ 4

การบ้านประจำสัปดาห์ที่ 4
                1.) โปรโตคอล (Protocol) คืออะไร
ตอบ  คือ กฎ ขั้นตอน และรูปแบบของข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย
                2.) การแบ่งโปรโตคอลออกเป็นชั้นๆ หรือเลเยอร์ Layer ช่วยให้เกิดประโยชน์ในการส่งข้อมูลอย่างไรบ้าง
ตอบ  การส่งข้อมูลในแต่ละเลเยอร์ จะไม่ซ้ำซ้อนกัน  ซึ่งเลเยอร์ที่อยู่ต่ำกว่าจะทำหน้าที่ให้บริการ Service กับชั้นที่อยู่สูงกว่า โดยเลเยอร์ที่อยู่สูงกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทราบว่า เลเยอร์ที่อยู่ต่ำกว่ามีวิธีให้บริการอย่างไร
                3.) ชุดโปรโตคอลที่ใช้จริงในระบบเครือข่ายปัจจุบัน มีอะไรบ้าง
ตอบ       1. โปรโตคอล แบบอ้างอิง OSI
                2. โปรโตคอล TCP/IP ใช้ในอินเตอร์เน็ต
                3. โปรโตคอล IPX/SPX ใช้กับระบบปฏิบัติการเครือข่ายของบริษัทโนเวลล์
                4. โปรโตคอล NetBEUI ใช้กับระบบปฏิบัติการเครือข่ายของบริษัทไมโครซอฟต์
                5. โปรโตคอล Apple talks บริษัทแมคอินทอช

                4.) การติดต่อสื่อสารกันทางอินเตอร์เน็ต ใช้ชุดโปรโตคอล (Protocol) ชนิดใด
ตอบ  โปรโตคอล TCP/IP
                5.) โปรโตคอล (Protocol) แบบอ้างอิง OSI (OSI Reference Model) แบ่งการทำงานเป็นกี่ Layer และแต่ละ Layer มีหน้าที่การทำงานอย่างไรบ้าง
ตอบ       จะแบ่งขั้นตอนการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ออกเป็น 7 Layer
                Layer1, Physical Layer เป็นการกล่าวถึงข้อกำหนดมาตรฐานคุณสมบัติทางกายภาพของฮาร์ดแวร์ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 ระบบ สัญญาณทางไฟฟ้าและการเชื่อมต่อต่างๆของสายเคเบิล,Connectorต่างๆ
                Layer2, Data Link Layer รับผิดชอบในการส่งข้อมูลบน network แต่ละประเภทเช่น Ethernet, Token ring, FDDI, หรือบน WAN ต่างๆ ดูแลเรื่องการห่อหุ้มข้อมูลจาก layer บนเช่น packet IP ไว้ภายใน Frame และส่งจากต้นทางไปยังอุปกรณ์ตัวถัดไป layer นี้จะเข้าใจถึงกลไกและอัลกอริทึ่มรวมทั้ง format ของ frame ที่ต้องใช้ใน network ประเภทต่างๆเป็นอย่างดี  
                Layer3, Network Layer เป็น Layer ที่มีหน้าที่หลักในการส่ง packet จากเครื่องต้นทางให้ไปถึงปลายทางด้วยความพยายามที่ดีที่สุด (best effort delivery)  layer นี้จะกำหนดให้มีการตั้ง logical address ขึ้นมาเพื่อใช้ระบุตัวตน
                Layer4, Transport Layer เป็น Layer ที่มีหน้าที่หลักในการแบ่งข้อมูลใน Layer บนให้พอเหมาะกับการจัดส่งไปใน Layer ล่าง ซึ่งการแบ่งข้อมูลนี้เรียกว่า Segmentation, ทำหน้าที่ประกอบรวมข้อมูลต่างๆที่ได้รับมาจาก Layer ล่าง และให้บริการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นระหว่างการส่ง (error recovery)
                Layer5, Session Layer เป็น Layer ที่ควบคุมการสื่อสารจากต้นทางไปยังปลายทางแบบ End to End และคอยควบคุมช่องทางการสื่อสารในกรณีที่มีหลายๆโปรเซสต้องการรับส่งข้อมูลพร้อมๆกันบนเครื่องเดียวกัน
                Layer6, Presentation Layer เป็นชั้นที่ทำหน้าที่ตกลงกับคอมพิวเตอร์อีกด้านหนึ่งในชั้นเดียวกันว่า การรับส่งข้อมูลในระดับโปรแกรมประยุกต์จะมีขั้นตอนและข้อบังคับอย่างไร
                Layer7, Application Layer เป็นชั้นที่อยู่บนสุดของขบวนการรับส่งข้อมูล ทำหน้าที่ติดต่อกับผู้ใช้ โดยจะรับคำสั่งต่างๆจากผู้ใช้ส่งให้คอมพิวเตอร์แปลความหมาย และทำงานตามคำสั่งที่ได้รับในระดับโปรแกรมประยุกต์
                6.) โปรโตคอล (Protocol) TCP/IP (Transmitsion Control Protocol/Internet Protocol) มีจุดประสงค์ของการทำงานอย่างไร และแบ่งเป็นกี่ชั้น แต่ละชั้นมีหน้าที่ทำงานอย่างไรบ้าง
ตอบ       1. เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างระบบที่มีความแตกต่างกัน
                2. ความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่าย เช่นในกรณีที่ผู้ส่งและผู้รับยังคงมีการติดต่อกันอยู่ แต่โหนดกลางทีใช้เป็นผู้ช่วยรับ-ส่งเกิดเสียหายใช้การไม่ได้ หรือสายสื่อสารบางช่วงถูกตัดขาด
                3. มีความคล่องตัวต่อการสื่อสารข้อมูลได้หลายชนิดทั้งแบบที่ไม่มีความเร่งด่วน เช่น การจัดส่งแฟ้มข้อมูล
                แบ่งเป็น 4 ชั้น
                ชั้นสื่อสารการประยุกต์ (Application Layer)  ชั้นบนสุดของชุดโปรโตคอล TCP/IP คือ ชั้น Application Layer การทำงานของชั้นนี้จะเป็นการเข้าใช้ทรัพยากรระยะไกล (Remode Access) และการแชร์การใช้ทรัพยากร  (Resource Sharing)
                ชั้นสื่อสารนำส่งข้อมูล (Transport Layer)   การทำงานในชั้นนี้ จะทำงานคล้ายกับชั้น Secsion และ Transport ในแบบอ้างอิง OSI Model  ซึ่งในชั้นนี้จะมี Protocol TCP (Transmission Control Protocol) และ UDP  (User Datagram Protocol) ซึ่งทั้งสอง โปรโตคอลก็มีลักษณะการรับส่งข้อมูลที่แตกต่างกัน
                ชั้นสื่อสารอินเทอร์เน็ต (The Internet Layer) การทำงานในชั้นนี้ จะทำงานคล้ายกับชั้น Network Layer ในแบบอ้างอิง OSI Model ซึ่งชั้นนี้จะทำหน้าที่ในการส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายต่างๆ ตามเส้นทางให้ถึงจุดหมาย ชุดข้อมูลที่อยู่ในชั้นนี้จะเรียกว่า  Packet หน้าที่ของโปรโตคอลในชั้นนี้คือ ส่ง Packet ให้ถึงปลายทางโดยจัดเส้นทางที่ดีที่สุด โปรโตคอลหลักที่ทำงานในชั้นนี้ คือ IP (Internet Protocol)

                ชั้นโฮสต์-เครือข่าย (Host-to-Network Layer) โพรโตคอลสำหรับการควบคุมการสื่อสารในชั้นนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีการกำหนดรายละเอียดอย่างเป็นทางการ หน้าที่หลักคือการรับข้อมูลจากชั้นสื่อสาร IP มาแล้วส่งไปยังโหนดที่ระบุไว้ในเส้นทางเดินข้อมูลทางด้านผู้รับก็จะทำงานในทางกลับกัน คือรับข้อมูลจากสายสื่อสารแล้วนำส่งให้กับโปรแกรมในชั้นสื่อสาร
                7.) โปรโตคอล TCP และ โปรโตคอล UTP แต่ละชนิดมีการทำงานอย่างไร และทั้งสองชนิดแตกต่างกันอย่างไ
ตอบ       1. โปรโตคอล TCP ถูกใช้ในการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใช้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่าย หรือแพรตฟอร์มที่ต่างกันไปยังปลายทางได้ และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ
                 2. โปรโตคอล UDP ใช้การเชื่อมต่อแบบ Connectionless โปรเซสที่ใช้โปรโตคอล UDP ไม่จำเป็นต้องสร้างการเชื่อมต่อ (Connection) กับปลายทางก่อนที่จะส่งข้อมูล
                8.) IP Address คืออะไร
ตอบ   IP Address ย่อมาจากคำเต็มว่า Internet Protocal Address คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP 
                9.) อุปกรณ์ Router ทำงานในชั้นใด บนชุดโปรโตคอล (Protocol) TCP/IP

ตอบ  Layer3, Network Layer

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การบ้านประจำสัปดาห์ที่ 3

การบ้านประจำสัปดาห์ที่ 
                1.) โปรโตคอล (Protocol) กับภาษาที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร แตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ โปรโตคอลเป็นข้อกำหนดหรือข้อตกลงที่ใช้ควบคุมการสื่อสารข้อมูลในเครือข่าย เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้โพรโทคอลชนิดเดียวกันเท่านั้นจึงจะสามารถติดต่อและส่งข้อมูลระหว่างกันได้ โพรโทคอลจึงมีลักษณะแตกต่างกับภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของมนุษย์ที่ต้องใช้ภาษาเดียวกันจึงจะสามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ

                2.) ระบบปฏิบัติการเครือข่าย NOS (Network Operating System) หรือ เครื่องแม่ข่ายให้บริการ มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างมา อย่าง
ตอบ       1. Netware เป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้นิยมใช้งานในระบบเครือข่ายมากสำหรับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในยุคแรกๆ
                2. Window NT เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท ไมโครซอฟต์ จำกัด สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เริ่มต้นไมโครซอฟต์ต้องการพัฒนาเป็นแอปปลิเคชั่น เซอร์ฟเวอร์ แต่ปัจจุบันสามารถประยุกต์ได้เป็นดาต้าเบส เซอรฟ์เวอร์ และอินเทอร์เน็ตเซอร์ฟเวอร์
                3. Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่กำเนิดมาบนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (Mainframe) ที่รองรับผู้ใช้จำนวนมากสำหรับระบบเครือข่ายในหน่วยงานใหญ่ๆ เป็นโปรแกรมจัดการระบบงาน (Operating system) ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบหนึ่ง
                4.Linux เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับระบบเครือข่าย ที่อยู่ในกลุ่มของ Freeware ที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูง
                5.Windows 2000 Server 

                3.) การทำงานของอุปกรณ์ Switch และ Router แตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ สวิตซ์ทำงานแบบเดียวกับฮับ แต่สวิตซ์สามารถระบุปลายทางที่กำหนดของข้อมูลที่ได้รับ ดังนั้นจึงส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องที่ควรจะได้รับข้อมูลเท่านั้น สวิตซ์สามารถส่งและรับข้อมูลได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงสามารถส่งข้อมูลได้เร็วกว่าฮับ

                4.) Cable Modem มีการทำงานอย่างไร และมีข้อดีอย่างไรบ้าง
ตอบ Cable modem ใช้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลกับสายเคเบิลทีวี และรับข้อมูลที่ 1.5 Mbps อัตราข้อมูลสูงกว่าโมเด็มโทรศัพท์ขนาด 28.8 และ 56 kbps หรือระบบ Integrated Services Digital Network (ISDN ) ขนาด 128 kbps และอัตราข้อมูลรองรับกับระบบ Digital Subscriber Line (DSL)
                ข้อดี วงจรการเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพสูง และมีความปลอดภัยของข้อมูลสูง สามารถใช้งานระบบโทรศัพท์ได้ ขณะไฟฟ้าดับ

                5.) จุดประสงค์ในการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มาอย่างน้อย 5 อย่าง
ตอบ       1. สามารถใช้โปรแกรมและข้อมูลร่วมกันได้
                2. เพื่อความประหยัด
                3. เพื่อความเชื่อถือได้ของระบบงาน
                4. ประหยัดเวลา ค่าเดินทาง

                5. สามารถแชร์ข้อมูลหากันได้ในเครือข่ายเดียวกัน

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เครือข่ายแบบ Wireless LAN

การบ้านประจำสังปดาห์ที่ 2 >>>>หากนักศึกษาต้องเป็นผู้ติดตั้งระบบเครือข่ายด้วยตนเองภายในหน่วยงานที่อยู่พื้นที่ใกล้บ้าน เช่น อบต. โรงเรียนในหมู่บ้าน หรือสถานีอนามัยหมู่บ้าน เป็นต้น นักศึกษาคิดว่าจะใช้ประเภทของระบบเครือข่ายแบบไหนมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจวางระบบในหน่วยงานนั้นๆ เพาะอะไร ทำไมถึงต้องใช้ จะอธิบายมาไม่น้อยกว่า 5 บรรทัด

            คำตอบ ข้าพเจ้าจะติดตั้งระบบเครือข่ายแบบ  Wireless LAN เพราะไม่จำเป็นต้องเดินสายเคเบิล สัญญาณสามารถครอบคลุมได้กว้างไกลและทั่วถึง เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว และไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรไม่มากนัก ลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการบำรุงรักษา สามารถขยายเครือข่ายโดยไม่จำกัดพื้นที่ เหตุผลที่ต้องใช้เครือข่ายประเภทนี้ก็เพราะติดตั้งง่าย ไม่ค่อยมีอุปกรณ์ต่อพ่วงไม่มากนัก อีกอย่างยังเหมาะสำหรับการเชื่อมต่อในระยะใกล้ๆ ไม่ไกลมากนัก

ตัวอย่าง เครือข่ายแบบ Wireless LAN 


วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัดบทที่ 1

1.เครือข่าย หมายถึง
ตอบ    รายการเชื่อมโยงกลุ่มของคนหรือกลุ่มองค์กรที่สมัครใจแลกเปลี่ยนข่าวสารร่วมกัน หรือว่าทำกิจกรรมร่วมกันโดยมีการจัดระเบียบโครงสร้าง ของคนของมวลชนอีกด้วย ความเป็นอิสระเท่าเทียมกันภายใต้พื้นฐานของความเคารพสิทธิ เชื่อถือ เอื้ออาทร ซึ่งกันและกัน

2.นักศึกษาคิดว่าชีวิตประจำวันเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอย่างไร จงอธิบายอย่างน้อย 5 บรรทัด
ตอบ  เกี่ยวข้องทางด้านการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก ซึ่งมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยการสอน เพื่อเพิ่มความรู้ทาง Social Network ให้กับนักศึกษา และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว การเก็บข้อมูลลงบนอินเตอร์เน็ต เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆ และสามารถพูดคุยผ่านทาง Social Network ได้ เช่น Facebook, Twitter ฯลฯ สามารถ Upload ข้อมูลหรือ Download ข้อมูล ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำข้อมูลนั้นมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้

3.นักศึกษาคิดว่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ต่อนักศึกษาในด้านใดบ้าง  ตอบอย่างน้อย 5 ข้อ
ตอบ   1. สามารถใช้เครือข่ายเดียวกันได้เช่น การใช้เครื่องปริ้นเตอร์เครื่องเดียวกันโดยการแชร์หากัน ซึ่งจะเป็นการประหยัดโดยไม่ต้องซื้อเครื่องปริ้นเตอร์หลายๆเครื่อง
          2. สามารถใช้ประโยชน์ในทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถส่งงานหรือเก็บงานที่ทำเสร็จแล้วไปเก็บบนอินเตอร์เน็ตได้
          3. สามารถติดต่อสื่อสารกันผ่านทาง Social Network ได้ และมีความสะดวก รวดเร็ว
          4. ช่วยลดการใช้กระดาษอย่างสิ้นเปลือง โดยการใช้ระบบการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ที่แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ทันที โดยใช้สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์แทน   
          5. สามารถรู้เรื่องราวต่างๆ บนอินเตอร์เน็ตได้อย่างทั่งถึง

4.การสื่อสารข้อมูลเครือข่ายที่นักศึกษาใช้อยู่ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง
ตอบ 1. โทรศัพท์
         2. อินเตอร์เน็ต